2. เหรียญ ๙ เหลี่ยม หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
เนื้อทองแดง สภาพดี ปี ๒๕๒๐รุ่นสร้างเขื่อน อายุ ๘๙ ปี วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ หลัง หลวงพ่อแดง วัดนางวัง จ.สมุทรสงคราม
3. เหรียญเสมามหามงคล 6 รอบ หลวงปู่แหวน ทยาลุโก วัดป่าหนองนกกด สกลนคร ชุดกรรมการอุปถัมภ์ 48 เหรียญ ปี 2558
sirimongkon สร้าง 73 ชุด มีโค๊ต มีหมายเลข จัดส่งคละหมายเลข ขนาดเหรียญ สูง 4.2 กว้าง 2.8 หนา 0.3 ซ ม ปี 2558
4. เหรียญไอ้ไข่รุ่นรับทรัพย์ ปี 2556
#เหรียญไอ้ไข่รุ่นรับทรัพย์ปี 56 (สร้างอยู่ในวาระ 10 ปีสร้างครั้ง) นิยมสุดๆ #บนได้จริง #ขอพรได้จริง #ท่านช่วยจริง... ( ตาไข่ ) #จากคําบอกเล่าจากคนในวัด กล่าวว่าท่านเป็นดวงจิตรติดตามพระโพธสัตย์ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ําทะเลจืด ทุดงมาทาง อ สิชล จ นครศรี และได้เจอวัดร้างและตระนักว่าวัดนี้จะสร้างประโยชน์ให้เหล่าประชาชนในภายภาคหน้า จึงสั่งให้ดวงจิตรนี้ เฝ้าวัดนี้เนื่องจากเคยเป็นสมบัติของสงฆ์มาก่อน #บ้างก็ว่าเป็นเด็กที่ติดตามเจ้าอาวาสรูปเก่าที่เคยอยู่ที่วัดนี้เมื่อสมัยก่อน เป็นเด็กที่มีฤทธิ์มาก มีอาคมสูงและมักจะมีคนมาขอช้วยโน้นนี้เสมอเช่นวัวหาย ของหาย หรือขอโชคลาภ ถ้าเด็กคนนี้รับปากแล้ว ทุกอย่างต้องสําริดผลเสมอ ต่อมาเจ้าอาวาสได้มรณะภาพ เด็กคนนี้ก็ได้เดินลงไปในสระน้ําหน้าวัดและก็ไม่กลับขึ้นมาอีกเลย ส่วนรูปแกะไอ้ไข่ที่อยู่ในวัดได้แกะจากไม้ตะเคียนคู่จากวัดพระโอน บ้านโพธิ์เสด็จ ผู้สร้างคือ ทวดเที่ยงหักเหล็ก จอมขมังเวทย์แห่งเมืองฉลอง แกะเป็นรูปเด็กยกมือติดหน้าอก แล้ววางใว้หน้าวัดเจดีย์ในปี 2525 เนื่องจากตาไข่ได้มาขอให้ท่านแกะรุปให้ในนิมิต และทวดเที่ยงกับเจ้าอาวาสในขณะนั้นคือ พ่อท่านเทิ่ม ก็ได้มอบชื่อให้เด็กวัดคนนี้ว่า ไอ้ไข่ #พร้อมประวัติที่เล่าขารถึงความทรงฤทธานุภาพของไอ้ไข่ หรือ ปู่ไข่ มานมนาน และได้แสดงเดชนับไม่ท่วน ถึงกับไล่แตะทหารสงครามโลกทั้งกองร้อยให้นอนไม่ได้ วิ่งหนีป่าราบมาแล้ว เพราะมานอนในวัดแต่ไม่ขออนุญาติ ตาไข่ก่อน จึงทําให้เป็นที่เลื่องลือมากและได้รับความนับถือทั่วประเทศไทย เหรียญรุ่น 1 ออกวัดเจดีย์ ปี พ.ศ.2526 บล๊อกมือขีด เหรียญรุ่น 2(ไข่หน้าแก่) ในปี 2535 บ้างก็ว่าออกที่วัดนาแล บ้างก็ว่าออกที่วัดเจดีย์ เหรียญรุ่น 3(เหรียญย้อนยุคปี 2526) ปี 2538 เป็นเหรียญปี 26 ย้อนยุคถือเป็นเหรียญรุ่น 3 ในวงการเรียกบล๊อกขาขีด เหรียญรุ่น 4(ไข่หน้าเด็ก)รุ่นสร้างเมรุ สร้างปี 2541 หมายเหตุ //วัตถุมงคลที่ใช้ชนวนมวลสารอาถรรพ์ตาไข่วัดเจดีย์ ประเภท เหรียญ ,รูปหล่อ และ องค์ขนาดบูชา ยกเว้น ,ผ้ายันต์ ,ล๊อกเก๊ต ,รูปภาพ ,แหวน ,กําไร นับจากปี 2546 ซึ่งทางเจ้าอาวาสท่านบอกใว้ว่าทางตาไข่วัดเจดีย์ท่านขอใว้ให้ 10 ปีสร้างได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น อาจเป็นทางนิมิตรหรือทางไหนก็ตามที่มีเหตุให้ต้องทําเช่นนั้น อาจเป็นได้ว่าถ้าสร้างบ่อยของจะเสื่อมและเป็นพุทธภานิชจนเกินไป ปี 2546 เหรียญรุ่นออกวัดเจดีย์พิมพ์นิยม และ รูปหล่อลอยองค์รุ่นแรก ปี พ.ศ.2546 #ปี 2556 เหรียญรุ่นออกวักเจดีย์รุ่นรับทรัพย์พิมพ์นิยมเนื้อต่างๆ เหรียญไหว้ข้างรุ่นแรก ,รูปหล่อจิ๋วรุ่น 1 ,รูปหล่อลอยองค์รุ่น 2 , รูปเหมือนไม้ตะเคียนขนาดประมาร 3 นิ้ว ,และรูปเหมือนขนาดบูชารุ่นแรกขนาดต่างๆ รุ่นรับทรัพย์ปี 56 เสกโดย เสกโดยพระเกจิสายเขาอ้อที่โด่งดังในประเทศไทย เช่น ลพ นวล วัดไสหร้า (เสกมาลสาร) ลพ เอียด วัดโคกแย้ม ลพ ผอม วัดไทรขาม ลพ เอ็น วัดเขาราหู พท เขียว วัดห้วยเงาะ ลพ ใจ วัดวังหลวง ลพ ไพสิฐ วังวิเวกสามแก้ว ลพ หรั่ง วัดห้วยแดง ฯลฯ และฆารวาสเขาอ้ออีกมากมายตามพิธีโบราณ รวมประสบการณ์ ไอ้ไข่วัดเจดีย์กุมารที่เรียกว่าเป็นสุดยอดกุมารไทย
5. เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน เนื้ออัลปาก้า ออกปี ๔๐ บล็อกนิยม ตาหวาน แข้งจุด ด แตก
หลวง ปู่ สรวง เทวดา เล่น ดิน รุ่น 1 เหรียญ พญา เต่า เรือน หลวง ปู่ทวด พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ เหรียญหลวงปู่สรวงรุ่นรูปไก่ พระเหรียญหลวงปู่เทพโลกอุดร เหรียญที่นํามาให้บูชากันนี้เป็น บล๊อกตาหวาน แข้งจุด ส่วนใหญ่เรียก บล็อคคุณสามารถ หรือว่า บล๊อค ด แตก ที่สําคัญ ตรง ด เด็ก จะมีเส้นแตก คมชัด วิธีสังเกต รุ่น 1 และ รุ่น 2 พระคําข้าวมหาลาภ จุดสังเกต ให้ดูที่พิมพ์หลัง รุ่น 2 ด้านหลังจะมี เม็ดจุด เหนือศีรษะองค์พระด้านขวา สําหรับรุ่น 1 จะไม่มีจุดดังกล่าว พระคําข้าว พระมาหาลาภ เป็นพระเนื้อผงสีขาว ปางมารวิชัย สร้างแบบพระพุทธชินราช มี 2 รุ่น รุ่น 1 ปลุกเสกเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2533 จํานวน 100,000 องค์ รุ่น 2 สร้าง 5,000,000 องค์ ปลุกเสก 2 ครั้ง คือ 29 ธันวาคม 2533 และ 28 พฤษภาคม 253 4 ด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อ นั่งในกรอบรูปพัดยศ มีชื่อ พระราชพรหมยาน อยู่ตรงที่นั่ง วิธีอาราธนา พระคําข้าว และ พระหางหมาก คําอารธนา ให้ระลึกถึงพระะพุทธเจ้า ทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหมดรวมทั้ง เทวดาและพรหม ครูบาอาจารย์ทั้งหมด มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ เสนา จ อยุธยา เป็นที่สุดและตั้งนะโม 3 จบ ปฏิบัติตามปกติว่า อิติปิโส 1 จบ หลังจากนั้นให้อธิฐานเอาตามประสงค์ เมื่ออธิษฐานแล้ว ปลุกด้วยคาถาปลุกพระของหลวงพ่อปานว่า อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะ เตชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่ง แก่มะอะอุนี้เถิด ประวัติพระคําข้าว มหาลาภ หลวงพ่อได้เล่าความอัศจรรย์ของพระคําข้าว สมัยที่ท่าน ยังอยู่ กับหลวงพ่อปานไว้ดังนี้ เมื่อสมัยหลวงพ่อ(ปาน)ยังทรงชีวิตอยู่ ท่านทําพระไว้องค์หนึ่ง เสกข้าว ๓ เดือนนี่ปรากฏว่า คําไหนอร่อยมากคํานั้นไม่กินเอาออกเก็บ สําหรับที่ฉันนี่ พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า คําแรกยังไม่ต้องกินกับข้าวที่ดีที่สุดผสมก่อน เสกเก็บนะ ก็ทําจริง ๆ ๔ เดือน ไปไหนก็ทํา หมายความว่าบังเอิญจะมาที่นี่ ก่อนจะกินก็ต้องทําเก็บไว้เหมือนกัน เพราะคําว่า ๓ เดือน ๓ เดือน นี่จะขาด สักวันหนึ่งไม่ได้เลย แล้วก็ผลจริง ๆ ที่เคยปรากฎนะ ที่หลวงพ่อปาน ท่านทํา ใช่ไหมทําแล้วก็ทําเป็นผงผสมไว้แล้วก็สร้างเป็นพระพุทธรูปไว้บูชาที่พระสวดมนต์ เวลาหลวงพ่อท่านไม่อยู่คนไม่ค่อยเอากับข้าวไปให้กิน ฉันก็ไป บูชาพระองค์นั้น ขอหม้อใหญ่ ๆ มาเรื่อยนี่เป็นเรื่องจริง ๆ นะ มาอีกวันหนึ่ง เป็นเรื่องที่อัศจรรย์มาก คือว่าหลวงพ่อ ไป เขาวงพระจันทร์ อีตาโปร่งแก เป็นเจ้าของโรงงานต่อเรือยนต์นะ แกก็นําแกงมา ๓ หม้อใหญ่ ใหญ่มาก ปรากฏพอมาถึงหน้าวัด ฉันบูชาตอนกลางคืนนี่นะ ฉันอดนะ กับข้าวไม่ค่อย มีกิน หลวงพ่อไม่อยู่เราก็อาศัยพระพุทธรูป ตาโปร่งมาถึงพอมาถึงจอด เรือ ปั๊บ ถามว่าหลวงพ่อ อยู่ไหม เขาบอกไม่อยู่ไปเขาวงพระจันทร์ แกถอยหลัง เรือออกเลยแหมหม้อต้มใหญ่ ๆ จะให้หลวงพ่อปานฉันองค์เดียว ใบจักรหัก มันไม่มีตอนะ ใบจักรหัก ฉันเลยหม่ําซะ ๓ หม้อเลย ใบจักรหักเรา ก็ไม่ช่วยต่อ เรื่องของแก พอหลวงพ่อปานกลับมา ตาโปร่งก็มา เล่าให้ฟัง บอกว่า ผมเอาอาหารมาถวาย นึกว่าหลวงพ่อยังอยู่ พอหลวงพ่อไม่อยู่ พระบอกว่า หลวงพ่อไม่อยู่ ผมเลยถอนหลังกลับเอาอาหารกลับบ้าน แต่ใบจักร ไม่รู้ฟันอะไรหัก หลวงพ่อปานบอกที่นั่นมันไม่มีตอ หน้าวัดไม่มีตอ แกก็ถามทําไมจึงหัก ท่านก็เลยบอกว่า แกคลายศัทธาใบจักรก็หัก ในเมื่อ มาถึงวัดแล้ว แกไปทําไมไอ้คนจะเป็นมหาเศรษฐี ถอยหลัง ไม่ต้องการ มหาเศรษฐีมีที่ไหน อ้อเทวดาช่วยนะ ช่วยใครรู้ไหม ช่วยฉัน โอ้โฮหม่ําซะ ไม่มี ดีใจกินแกงใบจักรหัก เกร็ดความรู้ที่หลวงพ่อพูดถึงเกี่ยวกับพระคําข้าว คัดลอกจากหนังสือ ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๙ โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน อันดับแรกที่เราจะทําอะไรทั้งหมด ตื่นขึ้นมาใหม่ๆ นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อน นึกถึงด้วยความเคารพ เพื่อหวังพระนิพพานก็ตาม นึกถึงเพื่อขอลาภสักการะก็ตาม ก็ถือว่าเป็นการนึกถึงพระพุทธเจ้าเหมือนกัน อันดับแรกนะ อย่างมี พระคําข้าว-พระคําข้าวน่ะ หนักไปในทางลาภสักการะ อย่างอื่นก็มีหมด แต่ลาภน่ะหนักมาก และก็หยิบขึ้นมาพนมมือ สาธุ ว่า นะโม ตัสสะ ใช่ไหม ว่านะโมตัสสะ ด้วยความเคารพ และอธิฐานว่า วันนี้ต้องการ ลาภอย่างไร) เป็นอันว่าเราอยากจะให้ค้าขายดี ทําราชการดี เมตตาปราณี อะไรก็ตามเถอะ ก็อย่าลืมว่าเวลานั้นเรานึกถึงพระพุทธเจ้า เราขอบารมีจากท่าน อย่างนี้ถือว่าเป็น ฌาน ในพุทธานุสติกรรมฐาน ถ้านึกถึงทุกวันน่ะ ถ้าถึงเวลาแล้วต้องทําอย่างนั้นทุกวัน ถ้าไม่ทําแล้วไม่สบายใจ นั่นเป็นฌานในพุทธานุสติ เป็นของง่าย ๆ เพราะวันนี้ท่านบอกให้พูดง่าย ๆ ใช้วิธีง่าย ๆ นะ ก็ว่าตามท่าน ทีนี้เมื่อเมื่อบรรดาท่านพุทธ บริษัท นึกถึงพระพุทธเจ้าแล้ว อย่าลืมพระที่คอ นี่คือพระพุทธเจ้า อย่างพระคําข้าว เป็นพระพุทธชินราช อย่าลืมน่ะ คือก็เหมือนกับพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งนั่นแหละ เป็นองค์แทนพระพุทธเจ้าท่าน และเวลาทําจริง ๆ พระพุทธเจ้าท่านก็มาทํา อันนี้ไม่ได้โฆษณานะ พูดให้ฟัง คือเวลาทําจริง ๆ พระพุทธเจ้าทุกองค์เสด็จมาหมด องค์ปฐมเป็นประธาน อยู่ข้างบนใช่ไหม และ องค์ปัจจุบันคุมฉัน ท่านปล่อยกระแสจิตพุ่งสว่างเป็นลําพุ่งมาที่ใจฉัน แล้วบอกเธอนั่งนิ่งๆ อย่าคิดถึงเรื่องอะไรทั้งหมด ห้ามดูอะไรทั้งหมด ให้ทรงอารมณ์เฉยๆ ๑๐ นาที ก็ทําตามท่าน แล้วท่านก็สั่งว่า ให้ว่าอิติปิโสฯ หลัง ๑๐ นาทีแล้ว ท่านบอกดูได้พุ่งใจไปที่ของได้ พอพุ่งใจไปที่ของ ที่เห็นเป็นลํา ไม่เห็นของที่ปลุกเลย แสงพระพุทธเจ้ากลบหมด หนามาก พระคําข้าว เด่นทางมหาลาภ มีรูปพระพุทธชินราช พระพุทธกัสสป ด้านหน้าและด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อ หลวงพ่อเคยบอกว่า สมเด็จองค์ปฐม ได้ให้พระพุทธกัสสป-พระพุทธทีปังกร คุมเรื่องลาภ คัดลอกจากหนังสือธัมมวิโมกข์ฉบับที่ ๑๔๕ หน้า ๖๓ สมเด็จองค์ปฐมก็มา และพระพุทธกัสสปก็มา สมเด็จพระพุทธทีปังกรก็มา สมเด็จองค์ ปฐมท่านบอกว่า เรื่องลาภนะ สมเด็จพระพุทธกัสสป หนักที่สุด และรองลงมาคล้ายคลึงกันคือ สมเด็จพระพุทธทีปังกร ก็เลยถามท่านว่า พระพุทธเจ้ามีบารมีเต็มเหมือนกัน ทําไมแตกต่างกันเรื่องลาภ ท่านบอกว่า สุดแล้วแต่การเริ่มต้น คู่อันไหนแรงกว่ากัน ท่านบอก ให้พระพุทธกัสสปคุมเพราะลาภมาก สมเด็
6. จ.เชียงใหม่ หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
รุ่นรักษาดินแดนไทยพิมพ์ ๙ เหลี่ยม ปี๒๐ มีพระอาจารย์หลายรูปร่วมปลุกเสกเดี่ยวให้ด้วยครับ เช่น หลวงปู่ขาว หลวงปู่ผาง หลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อวัดดอนตัน เป็นต้น
คุณรู้หรือไม่ ? นอกจากหลวงปู่แหวนรุ่นไหนแพงที่สุด มีเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้ออีกมากมายไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ สี ขนาด ราคา วัสดุที่ใช้และน้ำหนักซึ่งปั จจัยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะ ซึ่งมีทั้ง หลวงปู่แหวนรุ่นไหนแพงที่สุด และการใช้ของแต่ละบุคคล ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา หลวงปู่แหวนรุ่นไหนแพงที่สุด วันนี้ทางเราได้จัด แนะนำ หลวงปู่แหวนรุ่นไหนแพงที่สุดยี่ห้อดีต่อใจมาให้คุณแล้ว!